สุขภาพจิตดีเพียงมีเสาหลัก 3 ประการ

         การใช้ชีวิตในส้งคมปัจจุบันทำให้คนหนุ่มสาวต้องประสบกับความเคร่งเครียดในหลายๆ ด้าน  ทั้งการทำงาน  การดำเนินชีวิตประจำวัน  รวมทั้งสถานะทางเศรษฐกิจ  ก่อให้เกิดผลกระทบทั้งสุขภาพ กายและสุขภาพจิต    ผลการศึกษาซึ่งตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการด้านจิตวิทยาได้ดำเนินการ วิเคราะห์ผลกระทบของการนอนหลับ  การออกกำลังกาย  การรับประทานอาหาร ที่มีต่อสุขภาพจิต  ในประชากรวัยหนุ่มสาวมากกว่า 1,100 คน ในประเทศนิวซีแลนด์และสหรัฐอเมริกา

การนอนหลับมีผลต่อสุขภาพจิต

         สำหรับเกี่ยวกับการนอนหลับนั้นเป็นสิ่งที่ทำนายสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีได้ โดย คุณภาพการนอนหลับมีผลมากกว่าปริมาณการนอนหลับ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ  เพราะคำแนะนำ ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการนอนหลับส่วนใหญ่เน้นที่ปริมาณมากกว่าคุณภาพ  แต่ทว่านักวิจัยกลับพบว่า การนอนน้อยเกินไป  การนอนน้อยกว่าแปดชั่วโมง การนอนมากเกินไป และการนอนมากกว่า 12 ชั่วโมง มีความสัมพันธ์กับอาการซึมเศร้าที่สูงขึ้น และมีผลทำให้ความเป็นอยู่ที่ต่ำลง   ทั้งนี้ผลการศึกษา พบอาการซึมเศร้าต่ำที่สุดสำหรับคนหนุ่มสาวที่นอน 9.7 ชั่วโมงต่อคืน และความรู้สึกสุขสบายสูงสุด สำหรับผู้ที่นอนหลับ 8 ชั่วโมงต่อคืน   ทั้งนี้การหลับอย่างมีคุณภาพ คือ ครบวงจรทุกระยะการหลับ ทั้งหลับตื้น หลับลึก และหลับฝัน ให้ครบทุกระยะเพราะมีความสัมพันธ์กันวงจรการนอนหลับในคน ปกติทั่วไป มักใช้เวลาตั้งแต่ 30 วินาที ถึง 7 นาที เป็นสภาพที่แม้จะได้รับการกระตุ้นเพียงเล็กน้อย ก็จะตื่น จากนั้นเข้าสู่การหลับระยะต่างๆ คือ หลับตื้น เป็นระยะแรกที่มีการหลับตื้นอย่างแท้จริง แต่ยัง ไม่มีการฝัน ต่อมาคือ หลับลึก ร่างกายจะเข้าสู่โหมดพักผ่อนเมื่อเข้าสู่ระยะหลับลึกเป็นช่วงหลับสนิทที่ สุดของการนอนใช้เวลา 30 – 60 นาที ช่วงระยะนี้อุณหภูมิร่างกายและความดันโลหิตจะลดลง อัตรา การเต้นของหัวใจลดลงเหลือประมาณ 60 ครั้งต่อนาที โกรทฮอร์โมนจะหลั่งในระยะนี้  และหลับฝันอีก ระยะหนึ่งที่สำคัญคือ ช่วงหลับฝันร่างกายจะได้พักผ่อน แต่สมองจะยังตื่นตัวอยู่ นอกจากนี้การหลับฝัน ยังช่วยจัดระบบความจำในเรื่องของทักษะต่างๆ

การรับประทานอาหารและการออกกำลังกายมีผลต่อสุขภาพจิต

นอกเหนือจากการนอนหลับที่มีคุณภาพแล้ว  การรับประทานผักและผลไม้มากขึ้น ยังเป็น พฤติกรรมที่สัมพันธ์กับสุขภาพจิตที่ดีขึ้นและความเป็นอยู่ที่ดีในวัยหนุ่มสาว  โดยผลการศึกษาระบุว่า คนหนุ่มสาวที่รับประทานผลไม้และผัก 4.8 หน่วยบริโภคต่อวัน จะมีความเป็นอยู่ที่ดีที่สุด  ส่วนผู้ที่ รับประทานผลไม้และผักน้อยกว่า 2 หน่วยบริโภคต่อวัน และมากกว่า 8 หน่วยบริโภคต่อวัน รายงาน ว่ามีความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดีลดลง  นอกจากนั้นการออกกำลังกายยังช่วยต้านปัญหาสุขภาพจิต เพราะเมื่อ เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจที่ระดับปานกลางถึงระดับสูง  เลือดและออกซิเจนจะไหลเวียนไปยังสมอง มากขึ้น สิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของเซลล์สมองใหม่และทำให้เกิดการหลั่งสารเคมีแห่งความสุข หรือเซโรโทนิน

         การนอนหลับ  การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และการออกกำลังกาย ถือได้ว่าเป็น เสาหลักของสุขภาพจิต 3 ประการ ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีในหมู่คนหนุ่มสาว ซึ่งเป็น ประชากรที่มีความชุกของความผิดปกติทางจิตสูงและความเป็นอยู่ที่ต่ำกว่าปกติ

เครดิตภาพจาก pixabay.com

#สุขภาพจิต #วิธีดูแลจิต #ปัญหาสุขภาพจิต