ลิ้นของคนเรานอกจากจะมีประโยชน์ในการช่วยรับรู้รสชาติของอาหารให้กับเราได้แล้ว ทราบกันไหมว่าลิ้นแต่ละคนอาจมีสีที่แตกต่างกัน และสีเหล่านี้ยังสามารถช่วยบ่งบอกโรคที่เกิดกับตัวเราได้อีกด้วย บางคนอาจจะไม่เคยสังเกตสีของลิ้นกันเลย เมื่อเป็นแบบนี้เรามาดูกันดีกว่าลิ้นของคุณมีสีอะไรกันบ้าง
ภาพจาก mthai.com
ลิ้นเป็นฝ้าคล้ำ
ผู้ที่มีลิ้นลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากการสูบบุหรี่จัดติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือการได้รับยาปฏิชีวนะในจำนวนที่มากจนเกินไป เป็นสาเหตุให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์บนลิ้นถูกทำลาย รวมทั้งแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารด้วย ถ้าปล่อยไว้อาจทำเกิดปัญหากับร่างกายขึ้นได้
ลิ้นเป็นฝ้าขาวทั่วทั้งลิ้น
รวมทั้งเกิดเป็นจุดแดงๆ บนลิ้น รวมทั้งมีอาการของไข้ร่วมอยู่ด้วย อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสบางชนิด
ลิ้นมีสีขาวซีด
บ่งบอกถึงว่าร่างกายกำลังประสบปัญหาสภาวะโลหิตจาง ซึ่งอาจเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก เนื่องจากกินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ หรือเกิดจากมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหารโดยไม่รู้ตัว เป็นอาการที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ที่สำคัญใครมีลิ้นสีนี้ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุ
ลิ้นมีสีเขียวม่วง
เป็นภาวะที่ร่างกายขาดออกซิเจน หรือหมายถึงการเป็นโรคหัวใจพิการ และสามารถพบได้ในคนไข้ตับแข็งหรือตับวาย เป็นสีที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเกิดอันตรายร้ายแรงกับสุขภาพของเราได้
ลิ้นมีฝ้าขาว
เกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน มักจะพบในผู้ที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ เช่น ในเด็กแรกเกิด คนชรา หรือผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อราที่ลิ้น แต่ถ้าเกิดพบคนหนุ่มสาวให้ระวังว่า อาจมีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือในบางครั้งก็เกิดจากการมีปัญหาสุขภาพช่องปากเรื้อรัง ทำให้เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งช่องปากได้
ภาพจาก pixabay.com
ลิ้นมีสีแดงและมีอาการเจ็บ
เกิดจากการขาด วิตามินบี 1 รวมทั้งอาจเกิดจากการติดเชื้อโรคและมีการอักเสบเกิดขึ้นในร่างกาย
ลิ้นอักเสบแดง
นอกจากอักเสบแดงแล้วมักจะมีอาการเจ็บร่วมด้วย และมีเลือดออกง่าย บริเวณขอบลิ้นแตกเป็นร่องแผล ทานอาหารลำบาก โดยเฉพาะอาหารที่มีรสชาติเผ็ด เพราะจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนที่ลิ้น สำหรับผู้ที่มีลิ้นสีนี้ส่วนใหญ่ เกิดจากการขาด วิตามินบี 5
ลิ้นมีสีฟ้า
ผู้ที่มีลิ้นสีนี้ส่วนมากจะพบว่าการทำงานของ ตับ ไต และกระเพาะปัสสาวะของคุณกำลังมีปัญหา
เมื่อเป็นแบบนี้ในแต่ละวันเราควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงหรือสีต่างๆ บริเวณลิ้นของเรากันด้วย ถ้าพบอาการผิดปกติควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและหาแนวทางในการรักษาต่อไป
#การดูแลสุขภาพเบื้องต้น #รักสุขภาพ #วิธีดูแลสุขภาพ #ดูแลตัวเอง