‘หน้าผาก’ จัดเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่ง ที่ทำให้ใบหน้าโดยรวมมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ผู้ที่มีหน้าผากโหนกนูน ได้สัดส่วนตามที่พอเหมาะ จะทำให้รูปหน้ามีความสวยงาม มีความอ่อนหวานมากยิ่งขึ้น
โดนในอดีตนิยมฉีดซิลิโคนเสริมเข้าไป หากแต่ก็พบว่าอย่างไรก็ตามจะต้องมีผลแทรกซ้อนตามมา เพราะการฉีดซิลิโคนเหลวจะทำให้สารนั้น ไหลลงมา ทำให้ใบหน้าผิดรูปร่าง เพราะฉะนั้นในปัจจุบันนี้จึงนิยมเสริมด้วยวัสดุที่คงรูปแทน
วิธีเสริมหน้าผาก ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้
1.ฉีดไขมัน
คุณหมอจะดูดไขมันจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการออกมา แล้วนำมาฉีดเข้าไปที่หน้าผาก ซึ่งด้วยความที่ไขมันมาจากร่างกายของตัวเอง จึงไม่เกิดการต่อต้านและไม่ไหลเยิ้ม หากแต่ข้อเสีย คือ ไขมันจะสลายไปบ้าง ภายในระยะเวลา 1-2 ปี
2. Bone Cement
สำหรับสาร PMMA จัดเป็นสารที่ไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังปรับแต่งรูปทรงได้ง่าย ใช้เวลาในการผ่าตัด 2-3 ชั่วโมง
3. แผ่นซิลิโคน
มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ ขนาดกว้าง ใส่เข้าไปในหน้าผาก มีข้อเสียคือต้องเปิดแผลกว้างมากเพื่อใส่ซิลิโคนเข้าไป เพราะฉะนั้นจึงเกิดแผลเป็นยาว อีกทั้งอาจยังก่อให้เกิดอาการชาหลังผ่าตัด นาน 3-6 เดือน หากแต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้เข้ารับบริการแต่ล่ะคน
4. e-PTFE
จัดเป็นวัสดุทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้กันมาอย่างยาวนาน นำมาสร้างเป็นเส้นหลอดเลือดเทียม ต่อมานำมาใช้กับการผ่าตัดเพื่อศัลยกรรม วัสดุประเภทนี้สามารถยึดเกาะติดตำแหน่งต่างๆได้ดี อีกทั้งยังมีความนิ่มและเหนียว ยืดหยุ่นได้ดีเยี่ยม ปรับทรงให้เข้ากับหน้าผากได้ดี
5. PMMA
สำหรับวัสดุประเภทนี้ สร้างขึ้นมาให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน เป็นวัสดุเดียวกับ อยู่ในร่างกายได้อย่างปลอดภัย ไม่ระคายเคือง อีกทั้งยังมีการสร้างขึ้นมารูปทรงตามต้องการ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการปรับแต่งรูปทรงอีก สำหรับการผ่าตัดด้วยวิธีนี้ มีข้อดีที่โดดเด่น คือ ช่วยย่นระยะเวลาในการผ่าตัดให้ลดน้อยลง เนื่องจากมีขนาดและรูปทรงพอดีกับที่ต้องการอยู่แล้ว
ในปัจจุบันนี้มีผู้หญิงจำนวนมาก นิยมเสริมหน้าผากกันมากขึ้น เพราะยังเชื่อในเรื่องของการเสริมโหวงเฮ้งอีกด้วย แล้วคุณล่ะอยากจะเสริมหน้าผากให้ดูดีกันบ้างไหม
ขอบคุณรูปภาพจาก : kapook