ประโยชน์ต่อสุขภาพของงาขี้ม่อน

         งาขี้ม่อน หรือ  Perilla seed เป็นพืชที่สามารถรับประทานได้ทั้งเมล็ดและใบ พบได้มากทางภาค เหนือของประเทศไทย งาขี้ม่อนเป็นพืชตระกูลเดียวกับกะเพรา โหระพา ลักษณะของเมล็ดจะคล้ายงา คือเล็กประมาณ 1-2 มิลลิเมตร ทรงกลม มีสีน้ำตาลหรือสีเทา นิยมนำไปเป็นส่วนประกอบอาหาร รับประทานเล่น เช่น คุกกี้ หรือข้าวหนุกงา ส่วนใบของงาขี้ม่อน เป็นที่รู้จักกันในภาษาญี่ปุ่นว่า ใบชิโสะ งาขี้ม่อนสามารถนำมาใช้เพื่อสุขภาพและนำมารับประทาน มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

ชนิด  คุณค่าทางอาหาร  และประโยชน์ของงาขี้ม่อน

พันธุ์งาขี้ม่อน มีพันธุ์ใบสีเขียวและพันธุ์ใบสีม่วง ใบสีเขียวเป็นพันธุ์ที่พบมากในประเทศไทย จากการสำรวจการปลูกงาขี้ม่อนในภาคเหนือตอนบนพบว่า มีการปลูกกระจายทั่วไปบนพื้นที่ดอนตาม ไหล่เขาเชิงเขา งาขี้ม่อนทั้งหมด 130 สายพันธุ์ แบ่งออกเป็น 3 พันธุ์ ได้แก่  งาดอ เป็นงาขี้ม่อนอายุสั้น (เก็บเกี่ยวช่วงเดือนตุลาคม)  งากลาง อายุอยู่ระหว่างงาดอกับงาปี   และงาปี มีอายุมากกว่า (เก็บเกี่ยวช่วง ปลายเดือนธันวาคม)   เมล็ดงาขี้ม่อน 104 กรัม (8 ช้อนโต๊ะ) ให้พลังงาน 568 แคลอรี  มีคาร์โบไฮเดรต 25.6 กรัม โปรตีน 16.8 กรัม  ไขมัน 48 กรัม ใยอาหาร 14.4 กรัม  แคลเซียม 760 มิลลิกรัม เหล็ก 10.44 มิลลิกรัม  โพแทสเซียม 472 มิลลิกรัม โซเดียม 11.2 มิลลิกรัม   เมล็ดงาขี้ม่อนมีโอเมก้า3 ช่วยรักษา อาการร้อนใน  สามารถบรรเทาอาการภูมิแพ้อากาศ  ช่วยป้องกันการเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก  ช่วยปกป้องตับจากการถูกทำลาย และยับยั้งการเจริญของมะเร็งตับ  ใช้บำรุงผิวและยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน  ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ที่เป็นสาเหตุของโรค หัวใจ  ทำให้เกิดความผ่อนคลาย และลดความวิตกกังวลที่เป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้า  บรรเทาอาการ หอบหืด  และที่สำคัญมีมีสารเซซามอลที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง และชะลอความแก่

น้ำมันงาขี้ม่อน

งาขี้ม่อนเป็นพืชน้ำมันชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติที่ดีเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีคุณค่าทางโภชนาการ สูง  น้ำมันสกัดจากเมล็ดงาขี้ม่อน มีน้ำมันสูงประมาณ 31-51% เป็นแหล่งของกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลาย ตำแหน่ง น้ำมันจากเมล็ดงาขี้ม่อนมีประโยชน์หลายอย่าง  นำมาใช้เป็นอาหารและใช้ทำยาได้ ช่วยป้องกัน โรคได้หลายโรค เมล็ดงาขี้ม่อนมีโปรตีน 18-25 เปอร์เซ็นต์ วิตามินบีและแคลเซียมสูงกว่าพืชผัก 40 เท่า โดยมีปริมาณแคลเซียมประมาณ 410-485 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม และฟอสฟอรัสมากกว่าพืชผักทั่วไป 20 เท่า งาขี้ม่อนเป็นพืชชนิดเดียวที่มีโอเมก้า 3, 6 และ 9 ซึ่งมีมากกว่าน้ำมันปลา 2 เท่า เนยเทียมที่ผลิตจาก น้ำมันงาขี้ม่อนเป็นผลิตภัณฑ์อาหารใหม่สุดที่มีความปลอดภัยสูง เพราะปราศจากไขมันทรานส์

         อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังคือ  ควรใช้น้ำมันเมล็ดงาขี้ม่อนชนิดเจือจาง เนื่องจากการใช้ในรูปแบบ ที่เข้มข้น อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังหรือทำให้ผิวหนังอักเสบ   สตรีที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควร หลีกเลี่ยงรับประทานงาขี้ม่อนชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยถึงความปลอดภัยใน สตรีขณะตั้งครรภ์ และสตรีขณะให้นมทารกและเด็ก   และควรหลีกเลี่ยงในผู้ที่มีอาการแพ้งาขี้ม่อน หาก บริโภคแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น ผื่นขึ้น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ควรรีบไปพบแพทย์

เครดิตภาพจาก wikipedia.org

#งาขี้ม่อน #ประโยชน์งาขี้ม่อน #เมนูสุขภาพ