ค่า BMI (Body Mass Index) หรือเรียกย่อๆ ว่า BMI คือ ตัวชี้วัดมาตรฐานเพื่อประเมินสภาวะของร่างกายว่า มีความสมดุลของน้ำหนักตัวต่อส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่
ทั้งนี้ ค่า BMI สามารถใช้เป็นเครื่องมือคัดกรองเพื่อระบุผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือภาวะอ้วนและผู้ที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานในผู้ใหญ่ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป แม้จะมีงานวิจัยที่เชื่อมโยงค่า BMI ที่ต่ำ (ต่ำกว่า 18.5) และสูง (30 หรือมากกว่า) กับความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เพิ่มขึ้น แต่ก็มีข้อบกพร่องมากมายในการใช้
ค่า BMI ไม่คำนึงถึงปัจจัยทางสุขภาพอื่นๆ
ค่า BMI ตอบเพียงว่า“ ใช่” หรือ“ ไม่ใช่” กับคำถามเกี่ยวกับบุคคลนั้นมีน้ำหนัก“ ปกติ” หรือไม่ โดยไม่มีบริบทของอายุ เพศ พันธุกรรม วิถีชีวิต ประวัติทางการแพทย์ หรือปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยงข้อง
เนื่องจากการใช้ค่า BMI เพียงอย่างเดียวอาจทำให้พลาดการวัดสุขภาพที่สำคัญอื่นๆ เช่น ระดับคอเลสเตอรอล น้ำตาลในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ระดับการอักเสบ ซึ่งทำให้ประเมินสุขภาพที่แท้จริงของบุคคลนั้นสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป นอกจากนั้น ค่า BMI ถูกนำมาใช้กับบุคคลทั้งสองเพศ
แม้ว่าผู้ชายและผู้หญิงจะมีองค์ประกอบของร่างกายที่แตกต่างกัน โดยผู้ชายจะมีมวลกล้ามเนื้อมากกว่าและมีมวลไขมันน้อยกว่าผู้หญิง อีกทั้งเวลาคนเรามีอายุมากขึ้น ร่างกายก็จะมีมวลไขมันเพิ่มขึ้นและมวลกล้ามเนื้อจะลดลง ผลการศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุที่มีค่า BMI สูงขึ้น 23.0–29.9 สามารถป้องกันการเสียชีวิตและโรคในระยะเริ่มต้นได้
ค่า BMI อาจไม่เกี่ยวข้องกับประชากรทั้งหมด
แม้จะมีการใช้ค่า BMI อย่างกว้างขวางในผู้ใหญ่ทุกคน แต่ก็อาจไม่ได้สะท้อนถึงสุขภาพของประชากรบางเชื้อชาติอย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น มีผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าคนเชื้อสายเอเชียมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นโรคเรื้อรังที่ตัวเลขของค่า BMI ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคนผิวขาว แสดงให้เห็นว่าค่า BMI ใช้ระบุความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชากรในเอเชียได้ดี แต่การนำค่า BMI นี้ไปใช้กับชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียหลายรุ่น อาจจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมมากขึ้น นอกจากนี้ คนผิวดำอาจถูกจัดประเภทผิดว่ามีน้ำหนักเกิน แม้ว่าจะมีมวลไขมันต่ำกว่าและมวลกล้ามเนื้อสูงกว่าก็ตาม สิ่งนี้อาจชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงของโรคเรื้อรังเกิดขึ้นที่ค่า BMI ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับเชื้อชาติอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงผิวดำ ทั้งๆ ที่ ก่อนหน้านี้มีการศึกษาที่พบว่า ผู้หญิงผิวดำได้รับการจำแนกว่ามีสุขภาพที่ดีในการเผาผลาญที่ค่า BMI 3.0 ซึ่งสูงกว่าคนที่ไม่เป็นคนผิวดำ ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าค่า BMI มีประโยชน์สำหรับทุกกลุ่มเชื้อชาติหรือไม่ สุดท้ายการพึ่งพาค่า BMI เพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจความสำคัญทางวัฒนธรรมของขนาดร่างกายต่อกลุ่มต่างๆ ในบางวัฒนธรรมมวลไขมันที่สูงขึ้นจะถูกมองว่าดีต่อสุขภาพและเป็นที่ต้องการมากกว่า
ค่า BMI ซึ่งพิจารณาเฉพาะน้ำหนักและส่วนสูงของบุคคล โดยไม่ได้คำนึงถึงอายุ เพศ เชื้อชาติ องค์ประกอบของร่างกาย ประวัติทางการแพทย์ในปัจจุบันและในอดีต รวมถึงปัจจัยอื่นๆ อาจส่งผลต่อน้ำหนักและสถานะสุขภาพของบุคคลนั้นๆ ได้
เครดิตภาพจาก pixabay.com
#ค่า BMI #เครื่องมือน้ำหนัก #สาระสุขภาพ