น้ำ เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญต่อร่างกาย ในทุกๆ วัน เราจึงควรกินน้ำเยอะๆ เพื่อให้ร่างกายมีปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อความต้องการ ทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอหรือไม่ มีวิธีสังเกตุง่ายๆ ค่ะ คือ ให้ดูจากการปัสสาวะของเราในแต่ละวัน หากเราปัสสาวะน้อยกว่า 4 ครั้ง และสีของปัสสาวะเป็นสีเข้ม ก็บ่งบอกได้ว่า ร่างกายเรามีปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอนั่นเองค่ะ แต่ถึงแม้ว่า เราจะดื่มน้ำเยอะมากๆ ในแต่ละวัน ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะดื่มน้ำได้อย่างถูกวิธีนะคะ อะไรก็ตามที่มากเกินไป ก็ไม่เป็นผลดีเสมอค่ะ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า แล้วการดื่มน้ำที่ถูกวิธีต้องทำอย่างไร
กินน้ำเยอะไปก็ไม่ดี ต้องกินให้ถูกวิธีดีที่สุด
วิธีที่ถูกต้องในการกินน้ำแต่ละวันของแต่ละคนนั้น ต่างกันนะคะ แต่เรามีวิธีคำนวณมาฝากค่ะ นั่นก็คือ น้ำหนัก x 2.2 x 30/2 = ปริมาณน้ำ(มล.) เช่น น้ำหนักตัว 55 x 2.2 x 30/2 = 1,815 มล.คือปริมาณที่ควรดื่มต่อวันค่ะ และในการกินน้ำนั้นก็ควรกินให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ทั้งนี้สามารถกินน้ำตามช่วงเวลาได้ดังนี้ค่ะ
- ก่อนนอนและหลังตื่นนอน ครั้งละ 1 แก้ว แนะนำว่าก่อนนอนควรกินน้ำอุ่นจะดีที่สุดค่ะ และหลังตื่นนอนควรกินน้ำทันที เพราะเนื่องจากว่าร่างกายของเราขาดน้ำมาตลอดทั้งคืน ดังนั้นเราจึงควรกินน้ำทันทีหลังตื่นนอนเพื่อช่วยให้ระบบการทำงานของเลือดไหลเวียนได้สะดวกค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องการขับถ่ายอีกด้วยนะคะ
- ก่อนและหลังอาหาร ครั้งละ 1 แก้ว ก่อนทานอาหารควรดื่มน้ำก่อนทานประมาณ 15 นาที และในระหว่างทานอาหารไม่ควรกินน้ำตลอดเวลาค่ะ เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้นะบบการย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดี
- ระหว่างวันช่วง สาย บ่าย เย็น ประมาณ 1-2 แก้ว และควรจิบเรื่อยๆ ค่ะ
ทั้งนี้การกินน้ำที่ถูกวิธี ควรกินทีละ 1 แก้ว ค่อยๆ จิบไปเรื่อยๆ จะดีที่สุดนะคะ และถ้าหากเป็นน้ำอุณหภูมิปกติหรือน้ำอุ่น ก็จะดีต่อร่างกายมากๆ เลยค่ะ นอกจากนี้ไม่ควรรอให้หิวน้ำมากๆ แล้วค่อยกินนะคะ เพราะถ้าหากเรากินน้ำเข้าไปทีละเยอะๆ ร่างกายของเราจะไม่สามารถดูดซับน้ำได้ทันค่ะ
การที่เรากินน้ำได้อย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยให้ร่างกายของเราได้รับปริมาณน้ำที่เพียงพอแล้ว ยังส่งผลให้สุขภาพผิวของเราชุ่มชื้น ลดการเกิดริ้วรอยได้ด้วยนะคะ
เครดิตภาพ : sanook.com
#กินน้ำถูกวิธี #ดื่มน้ำให้ได้ประโยชน์ #วิธีดื่มน้ำที่ถูกต้อง