6 พฤติกรรมทำให้พุงโย้ “อ้วนลงพุง”

                  ความอ้วนลงพุงทำให้ไม่มีความมั่นใจ ทั้งในเรื่องของเสื้อผ้าที่สวมใส่ ภาพลักษณ์ รวมถึงบุคลิกภาพ เมื่อต้องไปพบปะกับผู้คน ภาวะอ้วนเกิดจากจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเราตั้งแต่การกิน การนอน การออกกำลังกาย นอนหลับพักผ่อน หากปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปเรื่อย ๆ ไม่รีบปรับเปลี่ยนก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ตามมาได้อีกด้วย

                  อ้วนลงพุงมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากพันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพาะการทานอาหาร การออกกำลังกาย และการนอนหลับพักผ่อน ภาวะอ้วนเกิดจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญในร่างกายจนเกิดการสะสมไขมันบริเวณช่องท้อง และอวัยวะภายใน เช่น ไต ตับ กระเพาะอาหาร ลำไส้ และอื่น ๆ ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของเส้นรอบเอว สังเกตเห็นอย่างชัดเจนว่ามีพุงยื่นโย้ออกมา ไขมันที่สะสมจะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับส่งผลให้อินซูลินทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงเกิดเป็นโรคอ้วนขึ้นได้ ทำให้ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ได้ หากเอวเพิ่มขึ้นในทุก ๆ 5 ชั่วโมง จะเพิ่มโอกาสเป็นโรคเบาหวาน 3-4 เท่า จึงเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร นี่คือ 6 พฤติกรรมเสี่ยงที่ต้องเลี่ยงเพื่อพิชิตอ้วนพิชิตพุง

พฤติกรรมเสี่ยง อ้วนพุงโย้

                  1. มื้อเช้าสำคัญอย่าละเลย ร่างกายไม่ได้รับอาหารตลอดทั้งคืน มื้อเช้าจึงมีความจำเป็นต่อร่างกาย เพื่อช่วยเติมพลังงาน และยังช่วยป้องกันโรคได้ หากไม่ทานอาหารเช้าระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำลง สมองจะสั่งให้ทานมื้อเที่ยงและมื้อเย็นมากกว่าปกติ จึงทำให้อ้วนลงพุงได้ง่าย

                  2. ลดมัน โดยเฉพาะอาหารประเภทผัดและทอด เปลี่ยนมาทานประเภท ต้ม ยำ ตุ๋น ลวก นึ่ง อบ เช่น ปลี่ยนจากการกินไข่ทอดหรือเจียว มาเป็นไข่ต้ม เป็นต้น

                  3. ดื่มน้ำสะอาดให้มาก อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยลดไขมันในร่างกาย รู้สึกอิ่มตลอดเวลา ลดความอยากอาหารลง และสามารถช่วยลดพุงหน้าท้องให้ลดลงได้ อีกทั้งช่วยในกระบวนการย่อยอาหารทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

                  4. ทานน้ำตาลแต่น้อย ในหนึ่งวันไม่ควรทานน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา ลดการดื่มน้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลลง นอกจากนี้ควรงดอาหารประเภท ขนม เค้ก เบเกอรี่ ที่ใช้ทานควบคู่ไปกับเครื่องดื่มด้วย หากปรับพฤติกรรมนี้ได้ จะช่วยให้ไม่อ้วนลงพุงอย่างแน่นอน

                  5. งดมื้อดึก พฤติกรรมของคนชอบนอนดึกคืออาการหิวและต้องหาอะไรมาทาน ขณะที่นอนหลับร่างกายไม่ได้ใช้พลังงานจึงไม่เกิดกระบวนการเผาผลาญจึงทำให้อ้วนได้ง่าย ๆ ควรเปลี่ยนมาทานประเภท ผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย โยเกิร์ต หรือน้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาลแทนก็ได้

                  6. งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะมีแคลลอรี่สูง ทำให้ร่างกายสะสมพลังงานส่วนเกินจำนวนมาก โดยเฉพาะการดื่มเบียร์เป็นประจำ ดังนั้นการงดหรือลดให้น้อยลงก็จะช่วยลดพุงได้เป็นอย่างดี

สาเหตุของการอ้วนลงพง

              สาเหตุหลักของการอ้วนลงพุงเกิดจากการทานอาหารเกินความจำเป็นต่อร่างกาย ทำให้ไขมันไปสะสมตามส่วนต่าง ๆ หากทานแป้งในปริมาณที่มากเกินไปทำให้มีน้ำตาลสูงเกิดภาวะร่างกายต้านอินซูลิน การนอนน้อยหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ และการไม่ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอก็เป็นส่วนส่งผลให้อ้วนลงพุงได้ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนตามมา เช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคความดันโลหิต ไตเสื่อม ไขมันพอกตับ เป็นต้น              

                  หากลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ใส่ใจกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คิดว่าอาจจะไม่เสี่ยงเป็นโรคอ้วนลงพุง ดังที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ตอนต้น นอกจากจะไม่มีพุงยื่นโย้จนเสียบุคลิกภาพ ยังช่วยให้ไม่เป็นโรคต่าง ๆ ตามมาอีกด้วย

เครดิตภาพ : romrawin.com / noozup.me / ที่ตรวจสารเสพติด.blogspot.com

Youtube

วิธีลดพุง ให้ถูกทาง

4 สาเหตุที่ทำให้พุงป่องเหมือนคนท้อง พุงย้อย อ้วนลงพุง

5 สาเหตุที่ทำให้พุงยื่น รู้สาเหตุกันแล้วอย่าปฏิบัติ รับรองพุงบ๊ายบายแน่นอน             

#พฤติกรรมทำพุงโย้ #สาเหตุอ้วนลงพุง #วิธีลดพุง