หากคุณกำลังประสบปัญหาในเรื่องของผิวหน้าที่ไม่ยกกระชับ ใช้ครีมบำรุงที่มีประสิทธิภาพแค่ไหนก็ไม่สามารถที่จะบำรุงได้ลึกถึงชั้นเซลล์ผิวได้นั้น คุณจะต้องพึ่งพานวัตกรรมทางการแพทย์สมัยใหม่ที่เป็นตัวช่วยในการยกกระชับผิวให้ดียิ่งขึ้นซึ่งนวัตกรรมที่ดีที่สุดและกำลังได้รับความนิยมในตอนนี้นั่นก็คือเทอร์มาจ (Thermage) และ อัลเทอรา (Ulthera)
หลายคนมักจะสงสัยว่าระหว่างเทอร์มาจ (Thermage) และอัลเทอรา (Ulthera) นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรและแบบไหนจะดีกว่ากัน เราจะมาตอบข้อสงสัยนี้ให้คุณได้ทราบข้อมูลอย่างละเอียดแต่ก่อนที่จะทราบถึงข้อแตกต่างระหว่างเทอร์มาจ (Thermage) และ อัลเทอรา (Ulthera) นั้น เราจะต้องทราบก่อนว่านวัตกรรมเทอร์มาจ (Thermage) และ อัลเทอรา (Ulthera) นั้นคืออะไร มีที่มาอย่างไรบ้าง
ทำความรู้จักกับเทอร์มาจ (Thermage)
เทอร์มาจเป็นเครื่องมือนวัตกรรมทางการแพทย์ที่คิดค้นขึ้นตั้งแต่ในช่วงปี 2000 โดยเครื่องเทอร์มาจรุ่นแรกมีชื่อว่า TC3 คิดค้นโดยบริษัทเดียวกับเครื่อง Vaser และ Fraxel
เทอร์มาร์จ คือ การนำเทคโนโลยีความถี่ของคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ที่เป็นแบบขั้วเดียวและสามารถเจาะจงตำเเหน่งได้มาพัฒนาจนสามารถใช้เป็นเครื่องกระตุ้นผิวหนังได้อย่างล้ำลึกตั้งแต่ชั้นหนังแท้ (Dermis) ไปจนถึงชั้นไขมัน และเมื่อคลื่นวิทยุที่อยู่ในเครื่องนี้ถูกส่งลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อคลื่นก็จะไปช่วยแก้ปัญหาเส้นใยคอลลาเจนที่หย่อนคล้อย ขาดการยืดหยุ่นให้กลับมาหดตัวและยืดหยุ่นได้ดียิ่งขึ้นช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับกว่าเดิม
ทำความรู้จักกับอัลเทอรา (Ulthera)
อัลเทอรา (Ulthera) เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวโดยการใช้พลังงานโฟกัสอัลตร้าซาวด์ที่เข้มข้นสามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อพังผืด (SMAS) ที่ยึดคอลลาเจนไว้ เมื่อกล้ามเนื้อพังผืด (SMAS) หย่อนคล้อยก็จะทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยตามไปด้วยและอัลเทอรา (Ulthera) จะส่งพลังงานลงไปเป็นจุด ๆ ถี่ ๆ โดยพลังงานที่ส่งลงไปจะไปทำการยึดกล้ามเนื้อผิวที่ย้วยย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงยกกระชับและได้รูปขึ้นอีกครั้ง
Thermage กับ Ulthera แบบไหนดีกว่ากัน
ไม่ว่าจะเป็น Thermage หรือ Ulthera ก็ให้ประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวที่พอ ๆ กัน เพียงแต่สำหรับคนที่ใบหน้าที่มีชั้นไขมันหนามากก็ไม่เหมาะกับการใช้ Ulthera เท่าใดนัก เพราะระยะการยิงของ Ulthera ไม่สามารถปรับให้ตามความหนาของชั้นไขมัน ฉะนั้นหากเลือกที่จะทำการยิง Ulhtera ก็อาจจะไม่ได้ผลตามที่ต้องการควรทำ Thermage จะช่วยได้ดีกว่าและเห็นผลกว่า แต่หากคนที่ต้องการที่จะยกกระชับบริเวณช่วงกรามและหน้าผากหรือคนที่มีไขมันแก้มน้อยแต่หนังตา คิ้ว หางตาตก Ulthera ก็อาจจะช่วยยกกระชับได้มากกว่า Thermage แต่ Ulthera ไม่อาจทำบริเวณเปลือกตาและริมฝีปากได้ในขณะที่ Thermage สามารถทำได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผิวชองแต่ละบุคคลและอีกหลายปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องคือ อย่างไรก็ตาม การทำหัตถการทั้ง 2 ประเภทนี้ เราสามารถทำควบคู่ไปด้วยกันได้ยิ่งจะทำให้เห็นผลดีและชัดมากขึ้นอีกด้วย สรุปแล้วความแตกต่างระหว่าง Thermage กับ Ulthera ต่างก็ให้ประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวที่พอ ๆ อาจพูดได้ว่าในการรักษาความยกกระชับหรือการปรับรูปหน้าขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของแต่ละคนมากกว่าว่าจะเหมาะกับการดูแลแบบไหน
นี่ก็คือความแตกต่างระหว่าง Thermage กับ Ulthera ที่เรานำมาไขข้อสงสัยให้กับทุก ๆ คนให้ทุกคนได้มีความรู้เพิ่มเติมมากขึ้นแล้วว่าการทำหัตถการระหว่างนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมทั้ง 2 ประเภทนี้ มีความแตกต่างกันอย่างไรและแบบไหนที่เหมาะกับผิวของคุณ อย่าลืมนำไปใช้ในการตัดสินใจว่าคุณต้องการแก้ไขในจุดบกพร่องใดมากที่สุดเพื่อที่ว่าจะได้คุ้มค่ากับเงิน, คุ้มค่ากับเวลาและได้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามที่ต้องการหวังว่าผู้หญิงทุกคนจะสวยขึ้นได้และออกไปใช้ชีวิตอย่างมั่นใจในทุกๆ วันไม่ว่าจะสวยด้วยการทำ Thermage หรือ Ulthera ก็ตาม
#Thermage กับ Ulthera #เทคโนโลยีศัลยกรรม #เพิ่มสวยด้วยศัลยกรรม