ไม่อยากเป็นกรดไหลย้อนต้องทำแบบนี้

โรคกรดไหลย้อนคือ ภาวะที่กรดหรือน้ำย่อยไหลย้อนเข้ามาในหลอดอาหาร เมื่อเกิดภาวะนี้จะทำให้มีอาการแสบร้อนบริเวณอกและจุกเสียดบริเวณใต้ลิ้นปี่ ถ้าหากภาวะนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ จนถึงขั้นเรื้อรัง ก็อาจจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไอแบบเรื้อรัง หรือ เสียงแหบ ฟันผุ เป็นต้นค่ะ สาเหตุของการเกิดกรดไหลย้อนมีอยู่หลายสาเหตุนะคะ ส่วนจะมีสาเหตุไหนบ้าง ตามมาดูเลยค่ะ

กรดไหลย้อนรักษาได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

  • ถ้าเกิดภาวะกรดไหลย้อน ต้องปรับพฤติกรรมในการกินแล้วนอนนะคะ เพราะหากกินเสร็จใหม่ๆ แล้วนอนทันทีจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารนั้นไหลย้อนเข้าหลอดอาหารได้ จนทำให้เกิดการติดขัดค่ะ ดังนั้นหากไม่อยากมีอาการแสบร้อนบริเวณอก ก็ต้องหลีกเลี่ยงการกินแล้วนอนค่ะ
  • กินอย่างพอดี ไม่กินอิ่มจนเกินไปค่ะ เพราะถ้าหากกินจนอิ่มมากๆ หรืออิ่มจนจุก แน่น ก็สามารถเกิดภาวะกรดไหลย้อนได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การกินแค่พออิ่ม นอกจากจะช่วยเรื่องกรดไหลย้อนแล้ว ยังช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้ด้วยนะคะ
  • อย่ารีบกลืนอาหารค่ะ ควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนอาหารทุกครั้ง เพราะหากรีบกลืนโดยไม่เคี้ยวให้ละเอียด จะทำให้น้ำย่อยทำงานหนักขึ้น และอาจทำงานได้ไม่ดีค่ะ ดังนั้นหากไม่อยากเป็นกรดไหลย้อนก็ควรเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนนะคะ การเคี้ยวให้ละเอียดนั้นนอกจากจะช่วยเรื่องกรดไหลย้อนแล้ว ยังทำให้อิ่มเร็ว และช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยค่ะ
  • ควรดื่มน้ำระหว่างมื้อ ไม่ควรดื่มรวดเดียวหลังจากมื้ออาหารค่ะ เพราะถ้าหากดื่มหลังมื้ออาหารทีเดียว น้ำจะไปเจือจางน้ำย่อย และจะทำให้ย่อยอาหารได้ไม่ดีค่ะ
  • ลดการดื่มชา กาแฟ เพราะในชากาแฟ มีคาเฟอีน ที่ไปกระตุ้นให้เกิดภาวะกรดไกลย้อนมากขึ้นค่ะ
  • หลีกเลี่ยงการทานของทอด ของมัน เพราะทำให้ย่อยยาก เมื่อน้ำย่อยทำงานหนัก ก็จะทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้ค่ะ
  • ลด หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทุกชนิด
  • ลดการสูบบุหรี่ เพราะมีสารพิษที่ทำร้ายร่างกายและช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ
  • อย่าใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปมากเกินไป เพราะจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานได้ไม่ดีค่ะ
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอค่ะ การออกกำลังกายจะทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีมากขึ้นค่ะ

ภาวะกรดไหลย้อนสามารถรักษาได้นะคะ เพียงแต่ต้องปรับพฤติกรรมตามที่ได้กล่าวไปแล้วค่ะ ถ้าใครกำลังเจอปัญหานี้อยู่ก็ลองนำไปใช้ดูนะคะ รับรองว่าจะไม่เกิดภาวะกรดไหลย้อนอีกแน่นอนค่ะ

เครดิตภาพ : pobpad.com

#กรดไหลย้อน #ภาวะกรดไหลย้อน #รักษากรดไหลย้อน