ชาเขียว นับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี ซึ่งในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ชาเขียวรูปแบบสำเร็จรูปออกมาอย่างแพร่หลาย เพื่อให้มีความสะดวกต่อการบริโภค ซึ่งชาเขียวเหล่านี้มีส่วนผสมของน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ไม่เกิดประโยชน์ต่อร่างกายมากนัก และมีโอกาสเสี่ยงเกิดโรคต่าง ๆ ด้วย ดังนั้นวิธีการดื่มชาเขียวอย่างถูกต้องนั้นทำอย่างไรมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
ดื่มชาเขียวอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
ชาเขียว เป็นชา (Camellia Sinensis) ที่ไม่ผ่านการหมัก โดยนำใบชาสด ๆ มาผ่านความร้อนเพื่อทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว ซึ่งความร้อนนี้จะไปยับยั้งการทำงานของเอมไซม์ไม่ให้เกิดการสลายตัวขึ้น ทำให้ได้ใบชาแห้งที่ยังคงความสดเอาไว้และยังมีสีเขียว อุดมไปด้วยสารอาหารทางชีวภาพมีจำนวนมากกว่า 200 ชนิด ได้แก่ กรดอะมิโน วิตามินบี ซี อี และกลุ่มของแซนทีนอัลคาลอย์ คือคาเฟอีน และธิโอฟิลลีน มีฤทธิ์ในการกระตุ้นในการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางทำให้ร่างกายมีความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า สดชื่น ผ่อนคลาย รวมถึงสารในกลุ่มของฟลาโวนอยด์ ชื่อว่า แคททีชิน และพบได้มากในชาเขียวคือสารอีพิกัลลาเทชินกัลป์เลต มีความสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ
วิธีการดื่มกชาเขียวให้ได้ประโยชน์สูงสุดคือ เมื่อชงเรียบร้อยแล้วควรดื่มให้หมด ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานเกินกว่า 2 ชั่วโมงไม่อย่างนั้น สารคาเทชินจะดักจับ และเกิดการรวมตัวของออซิเจนจนทำให้สีของชานั้นคล้ำขึ้น รสชาติจะฝาดขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากกรดแทนนินมีปริมาณสูง ส่งผลต่อระบบย่อยของกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้การดูดซึมอาหารโดยเฉพาะธาตุเหล็ก แคลเซียม และแมคนีเซียมเป็นไปอย่างไปเต็มประสิทธิภาพ
ดื่มชาอย่างฉลาด ได้สุขภาพเต็ม ๆ
ดื่มชาเขียวประมาณ 4-5 แก้วต่อวัน แต่ต้องมาจากการชงดื่มเองไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล และไม่ควรดื่มเกินวันละ 10-12 ถ้วย ก็มีส่วนช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล เนื่องจากช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกายได้ เพราะสารลีฟีนอล ที่มีคุณสมบัติที่ช่วยลดไขมันได้เป็นอย่างดี และยังช่วยในการดูดซึมอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญไขมัน ได้มากกว่า 70-80 แคลอรีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงกระดูก และฟันให้แข็งแรง เพราะสารไฟโตเคมีคอล ที่ช่วยลดกระดูกไม่ให้เปราะบางที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เป็นการดีที่สุด
ดื่มหลังอาหาร ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะให้มาช่วยย่อยสารในกลุ่มของวิตามินต่าง ๆ แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง และคนที่ชอบจิบชาแทนน้ำเปล่าควรชงแบบอ่อนจะเป็นการดีที่สุดซึ่งเป็นวิธีการดื่มชาเขียวที่ถูกต้อง เพราะชาแก่จะยิ่งเข้าไปกระตุ้นกระบวนการย่อย ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้
ไม่ควรดื่มชาเขียวสำเร็จรูป เนื่องจากปริมาณของใบชามีจำนวนน้อย สารสำคัญต่าง ๆ จึงมีน้อยไปด้วย ควรดื่มเพื่อดับกระหายเท่านั้น เพียงวันละ 1-2 ครั้ง อีกทั้งไม่ควรดื่มติดต่อกันหลายวัน
ประโยชน์ของการดื่มชามีมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ประโยชน์อย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด วิธีการดื่มชาเขียวอย่างถูกวิธี จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และไขมัน ช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้เป็นอย่างดี
เครดิตภาพ : today.line.me / clubsister.com / postjung.com
YouTube :
ชาเขียว ดื่มยังไงเพื่อลดไขมัน
ชาเขียว ต้องกินแบบไหน ไม่ให้เกิดโทษ..!!
#ประโยชน์ของการดื่มชา #การดื่มชาให้ถูกวิธี #ชาเขียวมีประโยชน์