ปรนเปรอผิวด้วยการฉีดวิตามิน

สาว ๆ หลายคนใจร้อนอยากมีผิวสวยผิวใส กินอาหารดี ๆ ก็แล้ว อาหารเสริมก็แล้ว ไหนจะโลชั่นหรือครีมบำรุงที่ว่าดีอีกสารพัด ทำไปเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ เพราะฉะนั้น จึงมาแนะนำอีกหนึ่งวิธีการปรนนิบัติผิวที่รวดเร็วทันใจนั่นก็คือการฉีดวิตามินให้กับผิว ซึ่งการฉีดวิตามินผิวใสที่นิยมทำกันในปัจจุบันนั้นมีตัวยาที่ออกฤทธิ์หลักคือ วิตามิน C หรือที่เรียกอีกอย่างว่ากรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่ร่างกายต้องการมาก เนื่องจากมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต้านอนุมูลอิสระ และนำไปสร้างคอลลาเจนที่ร่างกายจะนำไปซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ ทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นแข็งแรง อีกทั้งบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นมากขึ้นอีกด้วย

ทำไมฉีดวิตามินแล้วผิวถึงขาวขึ้น

สาว ๆ คงทราบว่าวิตามินมีทั้งชนิดแบบกินและแบบฉีด ซึ่งข้อดีของวิตามินแบบฉีดนั้นคือร่างกายสามารถดูดซึมได้ค่อนข้างเร็วและเห็นผลที่แน่นอน จึงทำให้เป็นที่นิยมกว่าแบบกิน แม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ เนื่องจากเป็นการฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรง ซึ่งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นกันทุกคน ผลข้างเคียงอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ เช่นเดียวกับผลลัพธ์ที่ขึ้นอยู่กับลักษณะสีผิวเดิมของสาว ๆ แต่ละคน

สิ่งหนึ่งที่สาว ๆ  ต้องรู้เอาไว้ก็คือ ไม่ว่าจะเป็นการรับวิตามินแบบกินหรือฉีดก็ตาม ในทางทฤษฎีแล้วไม่มียาตัวไหนที่สามารถเปลี่ยนลักษณะสีผิวของพันธุกรรมได้อย่างถาวร ทั้งนี้หลักการทำงานหลักของวิตามิน C จะช่วยลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน

แก้ปัญหาเรื่องจุดด่างดำ ดังนั้น เมื่อร่างกายของสาว ๆ ได้รับวิตามิน C อย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลให้ผิวของสาว ๆ ขาวกระจ่างใสขึ้นจากเดิม แต่จะไม่ขาวเกินลักษณะของผิวเดิมมากนัก เป็นไปตามสภาพผิวแต่ละคน อาจจะมีน้ำมีนวลมากขึ้น ผิวกระจ่างใสมากขึ้น ดูเป็นคนที่มีผิวพรรณดีมากขึ้นนั่นเอง 

ขณะเดียวกันที่สาว ๆ ต้องศึกษาให้ละเอียดรอบคอบคือ การเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ความสำคัญตรงนี้ส่งผลต่อการใช้วิตามินที่นำมาฉีดให้สาว ลองคิดดูว่าถ้าเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มี อย. ไม่มีคุณภาพที่ดี ความเสี่ยงที่เกิดจากการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดโดยตรงย่อมมีความอันตรายต่อชีวิต

อาจจะเกิดสภาวะช็อก, ความดันโลหิตลดลงต่ำ, มีผื่นขึ้นอย่างรวดเร็วไปทั่วร่างกาย ท้ายที่สุดอาจจะถึงขั้นเสียชีวิต เพราะฉะนั้น ก่อนจะสวยจะต้องศึกษาให้ละเอียด และต้องรู้ด้วยว่าการฉีดวิตามินมีข้อจำกัดอะไรบ้าง อาทิ ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดวิตามินคือ คุณแม่ตั้งครรภ์, ผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซน์ (G6PD Deficiency), ผู้ที่มีภาวะเหล็กเกิน, ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนิ่ว , โรคตับ, โรคไต และอื่น ๆ ซึ่งก่อนการฉีดวิตามินจะควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพและโรคประจำตัว เพื่อให้คุณหมอประเมินก่อนการฉีดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยในชีวิต

#การฉีดวิตามิน #ฉีดวิตามินบำรุงผิว #ศัลยกรรม